หักมุมคิดไปกับศิษยาภิบาล Ep.649
By UncleSom
ตอน : เมื่อเราเข้าเฝ้าด้วยหัวใจที่ยอมจำนน
“เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์ดีกว่าชีวิต ริมฝีปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ตราบเท่าชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ชูมือต่อพระนามของพระองค์ ( สดุดี 63:3-4 )
การให้การยอมรับและนับตัวเองให้เข้าส่วนร่วมในความครบถ้วนและความบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงอำนาจฤทธิ์เกรียงไกรได้ประทานให้เรานั้น ยังสำคัญมากกว่าสิ่งใด และ ยังเป็นปัจจัยที่จะหนุนเสริมให้การเข้าเฝ้าอย่างชิดใกล้ทั้งกาย จิตใจ และ จิตวิญญาณของเรา ที่จะปรากฏตัวต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์จะเป็นไปแบบยอมจำนนอย่างสุดใจ และจากทุกส่วนที่เรา ‘เป็นอยู่’ และ ‘มีอยู่’ คือ ด้วยสมอง (ที่เข้าใจ) ด้วยจิตใจ (ที่ยอมรับ) และด้วยร่างกาย (ที่ก้มกราบ)
แต่ผู้เขียนสดุดีบทนี้ ได้ ‘ยกระดับ’ หัวใจแห่งการเข้าเฝ้าที่ควรจะมีในผู้เชื่อทุกคนให้สูงขึ้นกว่านั้นอีก คือ การยกย่องเชิดชูองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ด้วยหัวใจและด้วยกายที่ยอมจำนนอย่างจงใจ ดังที่ว่า “ข้าพระองค์จะสรรเสริญ (ด้วยปาก) และ ข้าพระองค์จะชูมือ (ด้วยกาย) ต่อพระนามพระองค์” ซึ่งทั้งสองส่วนที่ใช้ในการนี้ เป็นการ “สื่อภาษาใจ” ได้เป็นอย่างดี โดย ‘มือที่ยกชูขึ้น’ นั้นนอกจากจะบอกถึงการ ‘ยอมจำนน’ แล้วยังสื่ออีกด้วยพระองค์ทรงอยู่ที่ไหนอีกด้วยแน่ะ ?
03/10/24